รีวิวซีรีส์ญี่ปุ่น Hirugao Love Affairs in the Afternoon ชู้รักบ่ายสามโมง
ซีรีส์ญี่ปุ่น Hirugao Love Affairs in the Afternoon ซีรีส์มีทั้งหมด 11 ตอนกับฉบับหนังที่เล่าเรื่องราวต่อเนื่องอีกหนึ่งภาค ตอนตัดสินใจดูทีแรกก็เตรียมใจไว้บ้างเหมือนกันนะว่า เนื้อหาการดำเนินเรื่องหรือพฤติกรรมของตัวละครคงมีอะไรให้รู้สึกขัดใจเยอะ ด้วยเนื้อหาที่เล่าเรื่องราวการคบชู้ แต่หลังจากดูตอนแรกผ่านไปได้สัก 40 นาที ผมเองเกือบจะเทเรื่องนี้แล้วเหมือนกัน เพราะรู้สึกขัดใจกับตัวละคร ซาวะ มาก ที่กลายเป็นฝ่ายถูกควบคุมโดย ริคาโกะ แทบตลอดเวลา แม้ ซาวะ จะรู้ทันและปากของเธอจะปฏิเสธทุกครั้ง แต่การกระทำของเธอมันตรงข้ามตลอด ช่วงแรกของซีรีส์จึงมีแต่อะไรที่ขัดใจอยู่ตลอดเวลา กระทั่งผ่านไปสักสามสี่ตอน จึงเริ่มปรับอารมณ์เข้ากับตัวละครและเข้ากับซีรีส์ได้
ซีรีส์สะท้อนเรื่องราวอีกด้านหนึ่งในสังคมญี่ปุ่นที่ผู้ชายออกไปทำงานนอกบ้าน แล้วผู้หญิงออกจากงานกลายมาเป็นแม่บ้านเต็มตัว ซึ่งซีรีส์สะท้อนความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยา ในแง่มุมต่าง ๆ ผ่านแต่ละครอบครัวที่เจอกับปัญหาชีวิตคู่แตกต่างกันไป
ริคาโกะกับโทรุ (Hôka Kinoshita) สามีนักธุรกิจที่ให้อิสระกับภรรยาแทบทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเงิน รถ สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ สิ่งที่เขาต้องการคืนกลับมาเพียงอย่างเดียวก็คือ หน้าที่ภรรยาที่สมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นงานบ้านหรือการเลี้ยงลูก ที่ผ่านมา ริคาโกะ ก็ทำหน้าที่ได้ดีไม่เคยขาดตกบกพร่อง เพียงแต่สิ่งเดียวที่ โทรุ ให้กับภรรยาไม่ได้ก็คือ ความรัก
เขามองเห็นเธอเป็นเพียงตุ๊กตาที่มีเอาไว้โชว์อวดผู้คน ริคาโกะ จึงเติมเต็มส่วนที่ขาดด้วยการกลายเป็น “สิ่งสวยงามในตอนกลางวัน” สาวออนไลน์ที่นัดบอดผู้ชายมาเสพสมกันที่โรงแรม แต่ที่ผ่านมาสิ่งที่เธอทำมันก็เยียวยาได้เพียงแค่ชั่วคราว กระทั่งเธอได้เจอกับ โอซามุ คาโตะ (Kazuki Kitamura) ศิลปินหนุ่มมาดเซอร์และไม่เหมือนใครที่เธอเคยเจอมาก่อน
ยูอิชิโระกับโนริโกะ คิตาโนะ (Ayumi Itô) คู่สามีภรรยาที่ฝ่ายสามีรู้สึกด้อยค่าเมื่ออยู่กับภรรยา เมื่อเขาต้องออกจากการเป็นนักวิจัยเพราะคิดว่าภรรยาทำได้ดีกว่า ยิ่งตอนนี้การที่เขากลายมาเป็นครูโรงเรียนมัธยม แต่ภรรยาได้เป็นรองศาสตราจารย์นักวิจัยไฟแรงที่กำลังก้าวหน้า การอยู่ใกล้กับภรรยามันยิ่งทำให้เขาอึดอัดมากเข้าไปใหญ่ ส่วน โนริโกะ ด้วยความที่เธอเป็นผู้หญิงเก่งทำงานนอกบ้าน แน่นอนว่าสิ่งที่เธอไม่ถนัดเลยก็คืองานบ้าน
ซาวะกับชุนสุเกะ คู่สามีภรรยาที่ก้มหน้าก้มตาทำงานงก ๆ เพราะอยากซื้อบ้านเป็นของตัวเอง ทั้งคู่มีชีวิตเรียบง่าย ซาวะ ทั้งทำงานบ้านและพาร์ทไทม์ ชุนสุเกะ เป็นผู้จัดการฝ่ายบริษัทเฟอร์นิเจอร์ที่การงานมั่นคง หากแต่สิ่งที่ ชุนสุเกะ ขาดหายไปก็คือ แม้เขาจะเรียกแทนตัวภรรยาว่าแม่ แต่เขากลับไม่ค่อยเอาใจใส่ ซาวะ เท่าที่ควร และยังดูจะให้ความสำคัญกับลูก ๆ ของตัวเองมากกว่า ทั้งที่ลูกที่กล่าวมาเป็นเพียงแฮมสเตอร์สองตัว ไม่เพียงเท่านั้น แม้ทั้งคู่จะอยู่กินกันมาหลายปี แต่ ชุนสุเกะ กลับเพียงแค่นอนจับมือกับ ซาวะ เมื่อเขาไม่ยอมมีเซ็กส์กับเธอ
การมีชู้ของทั้ง ริคาโกะและซาวะ รวมทั้ง ยูอิชิโระ จึงเหมือนเป็นการพยายามเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายไปของตัวเอง แต่หากจะมองว่านั่นเป็นเหตุผลพอให้การคบชู้ ของทั้งสามคนกลายเป็นความชอบธรรมคงไม่ใช่ เพราะผลที่เกิดตามมามันก็ทำร้ายคนบริสุทธิ์ด้วยเช่นกัน ฉบับซีรีส์ให้บทสรุปเนื้อหาในตัวเอง ซึ่งได้ให้บทสรุปเอาไว้ตั้งแต่เปิดฉากแรกมาเลย เมื่อเล่าถึงเหตุไฟไหม้บ้านหลังหนึ่งในละแวกใกล้เคียง และมีข่าวลือเรื่องการคบชู้ออกมามากมายเกี่ยวกับครอบครัวนั้น
เอาจริงซีรีส์ก็ขยายความเรื่องไฟไหม้ตั้งแต่ก่อนจะจบแล้วล่ะ ว่าผลของการมีชู้มันก็เหมือนกันกับไฟ ที่เผาทำลายทุกสิ่งอย่างที่สร้างมา ครอบครัวแตกแยก เกิดผลกระทบทางจิตใจกับลูก ๆ (ประเด็นนี้ใช้ตัวละคร เคย์ตะ (Kentarô Itô) และลูก ๆ ของ ริคาโกะ สะท้อนเรื่องราว) ชื่อเสียง ความไว้วางใจ ทรัพย์สินที่หามาได้ ทุกอย่างสามารถถูกทำลายได้หมด การคบชู้จึงไม่ต่างอะไรกับการจุดไฟเผาบ้านตัวเอง เพราะแม้ตัวเองจะเป็นอิสระจากพันธะทั้งหมด แต่ทุกอย่างที่สร้างมามันก็มลายหายไปด้วยเช่นกัน
ทั้งในฉบับซีรีส์และหนังไม่ถึงขนาดเรียกได้ว่านำเสนอแบบดาร์ก สิ้นหวัง สุดขั้ว อย่างที่บอกไปว่าแต่ละครอบครัวก็มีเหตุผลที่มาที่ไปในการตัดสินใจทำลงไป ส่วนจะถูกผิดรับได้กับเหตุผลที่ว่าแค่ไหนผมคงไปตัดสินแทนคนอื่นไม่ได้ หลายฉากของหนังเลยถูกทำออกมาแบบโรแมนติก บนความสัมพันธ์แบบคบชู้ ความรู้สึกกระอักกระอ่วนของคนดูเลยถูกลดทอนลงไปด้วยเหตุนี้ส่วนหนึ่ง
POST YOUR COMMENTS